"เครย์ฟิช" สัตว์เลี้ยงวัยโจ๋



สัตว์เลี้ยงสวยงาม

ดวงกมล โลหศรีสกุล

"เครย์ฟิช" กุ้งสีสวย ขวัญใจวัยโจ๋

กำลังฮอตฮิตในหมู่วัยรุ่นและบรรดานักเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงาม สำหรับ "กุ้งเครย์ฟิช" (Crayfish) หรือกุ้งสี สัตว์น้ำจืดที่มีสีสันสวยงาม โครงสร้างร่างกายแข็งแรง เลี้ยงง่าย มีมากกว่า 200 สายพันธุ์ ยิ่งตอนนี้เทรนด์การจัดตู้ปลาสวยงามเข้ามามีบทบาท ส่งผลให้ผู้รักสัตว์หน้าใหม่หันมาสนใจกุ้งชนิดนี้กันมากขึ้น ฉะนั้น เพื่อไม่ให้ตกกระแส เทคโนโลยีชาวบ้าน มีข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับสัตว์น้ำดังกล่าวมานำเสนอ

กุ้งสีทำเงิน กำเนิดธุรกิจ

คุณวสันต์ สว่างแจ้ง หรือ คุณต้น ฐานะเจ้าของฟาร์มไฮโดรเครย์ฟิช ผู้เพาะพันธุ์และจัดจำหน่ายกุ้งเครย์ฟิช หรือกุ้งสวยงาม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์น้ำชนิดนี้ว่า กุ้งเครย์ฟิชในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ "สาย P" (Procambarus) หรือกุ้งก้ามหนาม ถิ่นกำเนิดอยู่โซนทวีปอเมริกาและยุโรป ก้ามเล็ก ช่วงลำตัวสั้น โตเต็มที่ยาวประมาณ 4-5 นิ้ว บรรดามือใหม่หัดเลี้ยงจะชอบกุ้งสายนี้ เนื่องจากเลี้ยงง่ายและโตเร็ว สีที่ขายดี ได้แก่ ไบรท์ออเรนจ์หรือสีแดง เเละออเรนจ์นี่บลู (สีฟ้า)

อีกประเภทคือ "สาย C" (Cherax) ต้นกำเนิดมาจากทวีปออสเตรเลีย ก้ามเรียบและโต ลำตัวมีขนาดใหญ่ ความยาวเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 6-12 นิ้ว ชอบอาศัยอยู่ในน้ำเย็น ค่อนข้างเลี้ยงยาก ฉะนั้น เหมาะกับนักเลี้ยงประเภทมือโปร ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังนิยม ได้แก่ บลูเพิร์ล บลูล็อบ แอพปริคอต อิเรียนจายา และจากการค้นพบกุ้งเครย์ฟิชทั้งสาย P และสาย C มีประมาณ 200-300 สายพันธุ์ ทั่วโลก

สำหรับที่มาของการเพาะพันธุ์กุ้งสีในเชิงพาณิชย์ คุณต้น เล่าว่า เดิมเป็นเชฟร้านอาหารฝรั่ง งานอดิเรกชอบเลี้ยงปลา ราว ปี 2548 มีเพื่อนนำกุ้งสวยงาม สายพันธุ์ดั้งเดิมหรือบลูล็อบเตอร์มาให้ทดลองเลี้ยง 1 คู่ ปรากฏให้ลูกกุ้งหลายร้อยตัว เลยลองนำไปจำหน่ายผ่านหน้าเว็บไซต์ ราคาตัวละ 120 บาท ลูกค้าให้การตอบรับดี จุดนี้เองถือเป็นการเริ่มต้นทำธุรกิจ

"ลูกกุ้งสวยงามชุดแรกสร้างรายได้ให้เป็นที่น่าพอใจ เลยซื้อกุ้งสายพันธุ์อื่นๆ จากบริษัทนำเข้า-ส่งออก สัตว์น้ำรายใหญ่

แห่งหนึ่งมาเพาะขายแบบส่งถึงที่ ให้ลูกค้าในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทำเช่นนี้สักระยะ ปรากฏว่ารายรับมากกว่างานประจำ อีกทั้งได้รับโอกาสจากเจ้าของร้านอาหารให้มาทำธุรกิจส่วนตัว ฉะนั้น ราวปี 2550 เริ่มศึกษารายละเอียดกุ้งสวยงาม และระบบซื้อขายอย่างจริงจัง"

ด้วยจุดแข็งทางการตลาดที่ไม่เหมือนใคร ส่งผลให้กุ้งสวยงามระบบเดลิเวอรี่ของคุณต้นเป็นที่ยอมรับและกล่าวถึง ภายในเวลาอันรวดเร็ว วัดจากจำนวนผู้ที่คลิกเข้าชมในหน้าเว็บไซต์แต่ละเดือนสูงถึงหลักหมื่นคลิก รายรับเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ทุกวันนี้สามารถส่งออกกุ้งสาย P ให้ลูกค้าต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน และอีกหลายประเทศในแถบยุโรป ซึ่งบางประเทศนำไปรับประทานแทนการเลี้ยง ส่วนกุ้งสาย C ยังต้องนำเข้า แต่อนาคตจะพัฒนาการเลี้ยงเพื่อส่งออก

รูปแบบการลงทุนและวิธีดำเนินธุรกิจสัตว์น้ำสวยงามของคุณต้น เจ้าตัวระบุว่า เริ่มด้วยเงิน 3,000 บาท ซื้อพันธุ์กุ้งจำนวนหนึ่งมาเพาะ จากนั้นใช้กำไรต่อยอด ประกอบกับมีหลายช่องทางติดต่อลูกค้า ทั้งสำนักงานที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และระบบออนไลน์สื่อสารกับผู้ซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญมีบริการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ ระยะเวลาไม่นานกิจการกุ้งสวยงามเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน มีฟาร์มเลี้ยงที่จังหวัดระยอง ขนาดพื้นที่ 3.5 ไร่ และมีผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วที่จังหวัดเชียงใหม่ ราคา 22,800 บาท ได้อุปกรณ์ส่งเสริมการขาย อาทิ ตู้ไฟหน้าร้าน ถังออกซิเจน กุ้งสี 100-250 ตัว เป็นต้น

มัดใจลูกค้าด้วยความสะดวก

เปิดใจเทคนิคเลี้ยงกุ้ง

เมื่อเจ้าของร้านใช้กลยุทธิ์อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทุกรูปแบบ มาพร้อมกระแสนิยมเลี้ยงสัตว์สวยงาม คุณต้น กล่าวว่า ออเดอร์ลูกกุ้งเฉพาะสาย P ในประเทศ รายสัปดาห์หมุนเวียน 400-600 ตัว ราคาส่งตัวละ 40-60 บาท ขายปลีกตัวละ 80-100 บาท ออเดอร์จากต่างประเทศ 1,200 ตัว ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอีก 1,200 ตัว

"กำลังการผลิตกุ้งสาย P เฉลี่ยเดือนละ 1,200-1,500 ตัว ถือว่าไม่พอต่อความต้องการ ตรงกันข้ามเราจะไม่เพาะมากกว่าคำสั่งซื้อ เนื่องจากราคาจะตก ปัจจุบันนอกจากลูกค้าในประเทศ ยังทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับลูกค้าต่างประเทศแต่ละรายไม่น้อยกว่า 1-3 ปี ต้นทุนหลังหักค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารบางอย่างที่ไม่สามารถผลิตได้ เช่น ไส้เดือน แครอต แต่ละเดือน 6,000-8, 000 บาท ค่าน้ำมันขนส่งสินค้า 10,000 บาท เฉลี่ยแล้วมีรายได้จากการจำหน่ายลูกกุ้งอยู่ที่หลักแสนบาทต่อเดือน"

สำหรับรายละเอียดกุ้งเครย์ฟิช เเละวิธีการเลี้ยง ชายหนุ่มอัธยาศัยดีให้ข้อมูลว่า กุ้งชนิดนี้อุปนิสัยหวงถิ่นที่อยู่อาศัย ค่อนข้างก้าวร้าว ชอบพื้นที่กว้างๆ ดังนั้น ตู้หรือภาชนะที่เลี้ยงควรมีขนาด 24 นิ้ว ขึ้นไป อุณหภูมิน้ำไม่ต่ำกว่า 29 องศาเซลเซียส ข้อสำคัญไม่ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำหลายครั้งในวันเดียวกัน เนื่องจากน้ำจะทำปฏิกิริยากับกุ้งโอกาสตายสูง เพื่อคุณภาพน้ำที่ดีควรติดตั้งระบบออกซิเจน กรณีกุ้งสาย C ที่ชอบอากาศเย็น เวลาผสมพันธุ์ ให้ดีควรอยู่ห้องแอร์อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส เพราะถ้ากุ้งประเภทนี้เครียด จะสลัดก้ามทิ้ง โอกาสตายก็สูงเช่นเดียวกัน

ด้านของจำนวนการเลี้ยง คุณต้น ให้คำเเนะนำว่า เนื่องจากกุ้งเครย์ฟิชมีนิสัยหวงอาณาเขต ฉะนั้น ถ้าจะเลี้ยงเป็นคู่ ขนาดตู้ต้องใหญ่พอสมควร จำเป็นต้องมีที่หลบซ่อน อาทิ กระถางดินเผา ต้นไม้ ขอนไม้ ท่อพีวีซี ตัดเป็นท่อน นอกจากชัดเจนที่อยู่อาศัยเเล้ว ยังปลอดภัยเวลากุ้งเครย์ฟิชลอกคราบ เพราะเมื่อเจริญเติบโตขึ้น สัตว์ชนิดนี้จะเเสดงออกด้วยการลอกคราบ อัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ครั้ง ต่อ 1 เดือน เมื่ออายุได้ 1 ปี การลอกคราบจะเหลือเพียงปีละครั้ง เเต่ละครั้งลำตัวจะนิ่ม และอ่อนแอมาก จำเป็นต้องอยู่ในที่ปลอดภัย กว่าปลือกจะเเข็งเเรงเป็นปกตินาน 2-3 วัน

กรณีผู้เลี้ยงต้องการตกเเต่งที่อยู่อาศัยของกุ้ง สิ่งที่ควรคำนึงถึงลำดับเเรกคือ กุ้งเครย์ฟิชจะหลบซ่อนตัวช่วงเวลากลางวัน ออกหากินเวลากลางคืน ฉะนั้น วัสดุที่ใช้กำบังควรจะมีลักษณะเป็นโพรง อาทิ ต้นไม้น้ำ หรือ ท่อพีวีซี เเละด้วยนิสัยนักสำรวจ พื้นตู้ควรโรยด้วยกรวดและหินต่างๆ ไม่ควรใช้ทราย เพราะมีความหนาแน่นสูง อาจทำให้ขาดอากาศหายใจได้

ขายดี ยอดไม่ตก

ไม่หวง เผยทุกข้อมูล

หัวใจสำคัญของผู้ที่เพาะเพื่อขยายพันธุ์ ฐานะเจ้าของฟาร์ม ระบุว่า กุ้งเครย์ฟิช สามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี ทว่าต้องเป็นประเภทเดียวกันเท่านั้น วิธีการง่ายๆ เริ่มเเรก คัดกุ้งที่มีลักษณะเด่น คือ สีสวยสด อวัยวะครบ เเข็งเเรง อายุเฉลี่ยของพ่อเเม่พันธุ์ประมาณ 3 เดือน ขึ้นไป จากนั้นนำกุ้งเครย์ฟิชตัวผู้กับตัวเมียมาปล่อยรวมกัน ตัวเมีย 2 ตัว ตัวผู้ 1 ตัว สังเกตตัวเมียจะมีอวัยวะสืบพันธุ์เป็นแผ่นทรงวงรีสีขาว ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร อยู่บริเวณขาเดินคู่ที่ 3 ส่วนกุ้งเครย์ฟิชตัวผู้ อวัยวะคล้ายตะขออยู่บริเวณขาเดินคู่ที่ 2 และ 3 ใช้สำหรับเกี่ยวตัวเมียในการผสมพันธุ์ ระยะเวลาผสมพันธุ์นาน 10-15 นาที

ส่วนระยะเวลากว่าจะเป็นลูกกุ้งสวยงาม หลังจากผสมพันธุ์เเล้ว 15-20 วัน จะเห็นไข่ใต้ท้อง บริเวณโคนขาของกุ้ง

เครย์ฟิชตัวเมีย ไม่เกิน 15 วัน ไข่จะพัฒนาเป็นตัวกุ้ง จากนั้น 1-2 วัน กุ้งจะออกมาเดินหาอาหารเองในที่สุด การผสมพันธุ์แต่ละครั้งให้ลูกกุ้งมากถึง 300 ตัว ตัวอ่อนของกุ้งเครย์ฟิชมีขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ช่วงนี้จะลอกคราบบ่อย ควรดูเเลอย่างดี ให้อาหารเสริมจำพวกไส้เดือนฝอย ไรทะเล

ด้านอาหารเองก็มีผลต่อสีสันเเละความเเข็งเเรง สำหรับคุณต้น นอกจากอาหารตามธรรมชาติ อาทิ สาหร่ายหางกระรอก ตะไคร่น้ำ หนอนแดง ไส้เดือนน้ำ แครอตต้มสุก เขาบอกว่า คิดค้นสูตรอาหารขึ้นเอง ตัวอย่าง เช่น ปลาป่น ตับปลาหมึก แป้งสาลี กากถั่วเหลือง น้ำมันปลา แร่ธาตุ วิตามิน ลิ้นทะเล หรือกระดองปลาหมึก มีสรรพคุณเสริมแคลเซียม ช่วยเร่งการแข็งตัวของเปลือกกุ้ง ป้องกันกุ้งขาดสารอาหาร ลอกคราบไม่ออก ลอกคราบติด เปลือกนิ่ม ตัวกรอบ ผลิตเม็ดสีได้เต็มที่

มีข้อห้ามที่ผู้เลี้ยงต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นั้นคือ ไม่ควรเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชรวมกับปลาสวยงามที่นิสัยดุร้าย และชอบอยู่ก้นตู้เหมือนกัน ฉะนั้นเเล้ว กุ้งเครย์ฟิช อาจกลายเป็นอาหารปลา

นอกจากคุณต้นจะรับผิดชอบเรื่องเพาะพันธุ์กุ้ง ดูแลด้านการตลาด ยังมีทีมงานอีก 8-10 คน เป็นผู้ช่วยจัดส่งสินค้าถึงมือผู้ซื้อ และหากใครต้องการเข้าไปเรียนรู้วิธีการเลี้ยง การเพาะพันธุ์ชนิดถึงตัวกุ้ง คุณต้น บอกว่า ยินดีต้อนรับ พร้อมกับเผยทุกเทคนิค ทุกเคล็ดลับ ไม่หวงแน่นอน

หากท่านใดสนใจ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแวะไปชมฟาร์มคุณต้น เลขที่ 80/19 หมู่ที่ 4 ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง หมายเลขโทรศัพท์ (084) 333-7489 หรือสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่อยู่ หมู่บ้านลุมพินีวิลล์ อยู่ริมถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี เบอร์โทรศัพท์ (084) 333-7489 เเละหน้าเว็บไซต์http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=61104.0


ที่มา : "เครย์ฟิช" กุ้งสีสวย ขวัญใจวัยโจ๋ โดยดวงกมล โลหศรีสกุล
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 22 ฉบับที่ 487


"มติชน"เทคโนโลยีชาวบ้าน



ชวลิต เจติพันธุ์ เพาะขยายพันธุ์ปลากระเบนสวยงามรายใหญ่
กระชังปลา เพื่อการเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวหน้าเกาะเสม็ด
ทัวร์ทะเลสาบน้ำจืด...บึงบอระเพ็ด
"ม้าน้ำ" ปลาประดับมีชีวิต โดยอุราณี ทับทอง
นกเลิฟเบิร์ด สีสันสวยงาม ชวนให้เลี้ยง ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา
ไก่ย่างไทย โดยพรศักดิ์ พงศาปาน
"ปลากัด" ของ ยุทธ ภู่พลับ คนสู้ชีวิต แห่งปากน้ำโพ สู้อย่างทระนง แม้ร่างกายพิการ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เทคนิคการเลี้ยงปลามังกร

อาหารสำหรับอะโรวาน่า

การเลี้ยงกุ้งเครฟิช