อาหารสำหรับอะโรวาน่า

จิ้งหรีดเป็นอาหารที่มีคุณค่าสำหรับอะโรวาน่า ความเสี่ยงต่อการติดโรคต่ำ แต่ควรเลือกขนาดของจิ้งหรีดให้มีขนาดพอเหมาะกับอะโรวาน่าเพื่อป้องกันอาการปากยื่น คุณสามารถให้จิ้งหรีดกินวิตามินเสริมก่อนที่จะให้เป็นอาหารกับอะโรวาน่าได้ ไม่ว่าจะเป็นฝักทองหรือแครอท ซึ่งอุดมไปด้วย วิตามิน เอ (ช่วยเร่งสี โดยเฉพาะสีแดง)

คุณค่าทางอาหาร
Moisture (ความชื้น)
74 %
Ash (เถ้า)
1 %
Protein (โปรตีน)
18 %
Fat (ไขมัน)
6 %
Other (อื่นๆ)
1 %
แมลงสาบจะมีสารอาหารคล้ายกับจิ้งหรีด ควรหลีกเลี่ยงการให้แมลงสาบที่ตายแล้วกับอะโรวาน่า นอกจากว่าท่านแน่ใจว่าแมลงสาบนั้นไม่ได้ตายจากยาฆ่าแมลง
ตะขาบเป็นอาหารที่มีคุณค่ากับอะโรวาน่าเช่นเดียวกัน ตะขาบถูกใช้เป็นอาหารสำหรับอะโรวาน่าอย่างแพร่หลายในแทบทวีปเอเซียเพื่อช่วย เร่งสีสันให้กับอะโรวาน่า แต่น่าเสียดายที่ตะขาบเป็นอาหารที่มีราคาสูงและหายาก
ปลาทุกชนิดที่มีขนาดพอดีคำกับอะโรวาน่าของท่าน สามารถที่จะให้เป็นอาหารกับอะโรวาน่าได้ ไม่ว่าจะเป็นปลาทอง, ปลากัด, ปลานิล หรือแม้แต่ปลาคาร์ฟ ความเสี่ยงต่อการติดโรคจากการให้ปลาเหยื่อค่อนข้างสูง ท่านจึงควรจะเก็บกักปลาเหยื่อก่อนที่จะให้เป็นอาหารอย่างน้อย 5 วัน
เนื้อปลาสามารถให้เป็นอาหารของอะโรวาน่าได้ ก่อนให้ควรจะตัดส่วนที่เป็นหนังกับไขมันออก และหั่นให้เป็นขนาดพอคำ
ควรเลือกแต่กุ้งที่สด ตัดส่วนหัวและส่วนหางที่แข็งออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นขนาดพอดีคำกับอะโรวาน่า ท่านอาจจะลอกเปลือกออกหรือให้ทั้งเปลือกก็ได้ เนื้อกุ้งมีปริมาณวิตามินเอสูง ซึ่งจะช่วงเร่งสีสันของอะโรวาน่า ในระยะแรกของการให้เนื้อกุ้ง อะโรวาน่าอาจปฎิเสธอาหารชนิดนี้ ท่านอาจจะต้องใช้ความอดทนและความพยายามในการฝึกให้กิน 
คุณค่าทางอาหาร
Ash (เถ้า)
1.6 %
Protein (โปรตีน)
21 %
Fat (ไขมัน)
1 %
Energy (พลังงาน)
1 kcal/g
กุ้งฝอยเป็นอาหารที่มีคุณค่ากับอะโรวาน่า พยายามเลือกขนาดของกุ้งฝอยให้เหมาะกับอะโรวาน่าของท่าน ควรหลีกเลี่ยงการให้กุ้งฝอยตัวใหญ่กับอะโรวาน่าตัวเล็ก เพราะกรีกุ้งที่แข็งอาจจะไปทำอันตรายกับระบบย่อยอาหารได้ และไม่ควรที่จะปล่อยกุ้งฝอยเป็นๆทิ้งไว้ในตู้ปลาของท่าน เพราะจะทำให้อะโรวาน่าคอยมองลงเพื่อหาอาหารตลอดเวลาซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการตาตก
หนอนแดงถูกใช้เป็นอาหารหลักสำหรับอะโรวาน่าตัวเล็ก เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ซึ่งมีทั้งแบบแช่แข็งและสด ในกรณีที่ท่านให้หนอนแดงแช่แข็ง ไม่ควรให้ทั้งๆที่ยังเป็นน้ำแข็งเนื่องจากอาจทำให้ระบบย่อยอาหารแปรปรวนได้ ควรจะนำมาละลายน้ำให้หายเย็นเสียก่อน
หนอนนกหรือหนอนยักษ์เป็นอาหารที่มีคุณค่าสำหรับอะโรวาน่าเช่นเดียวกัน ควรเลือกหนอนที่เพิ่งลอกคราบใหม่ๆ(สีของเปลือกจะเข้มขึ้นตามอายุของหนอน เพราะฉะนั้นเลือกตัวที่สียังอ่อนอยู่) สำหรับอะโรวาน่าตัวที่มีขนาดใหญ่สามารถให้หนอนยักษ์ได้ ซึ่งจะมีลักษณะใกล้เคียงกับหนอนนกแต่ตัวจะใหญ่กว่ามาก ควรจะตัดส่วนหัวออกก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของระบบย่อยอาหาร 
คุณค่าทางอาหาร
Ash (เถ้า)
3 %
Protein (โปรตีน)
17 %
Fat (ไขมัน)
5 %
Moisture (ความชื้น)
70 %
ไส้เดือนดินเป็นอาหารที่มีคุณค่าสำหรับสัตว์น้ำเกือบทุกชนิด ความเสี่ยงของการติดโรคจากไส้เดือนดินต่ำ ควรจะชำระล้างดินออกก่อนที่จะให้เป็นอาหาร
กบเป็นอาหารที่มีคุณค่าซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในแทบเอเซีย พยายามหลีกเลี่ยงการใช้กบจากธรรมชาติ นอกจากว่าท่านจะแน่ใจว่ากบชนิดนั้นไม่มีพิษ และสามารถให้เป็นอาหารได้ ควรเลือกกบที่มีขนาดพอดีกับอะโรวาน่า 
คุณค่าทางอาหาร
Ash (เถ้า)
19.9 %
Protein (โปรตีน)
34.4 %
Fat (ไขมัน)
31.4 %
Energy (พลังงาน)
4.73 kcal/g
จิ้งจกเป็นอาหารอีกชนิดที่อะโรวาน่าชอบและมีคุณค่าทางอาหารสูง แต่เนื่องจากเป็นอาหารที่หายากและราคาสูง จึงไม่เป็นที่นิยมในการใช้ จิ้งจกสามารถพบได้ตามบ้านในแทบทุกภาคของประเทศไทย การจับค่อนข้างลำบากแต่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับอะโรวาน่าของท่าน
ในท้องตลาดมีอาหารสำหรับอะโรวาน่าหลากหลายยี่ห้อ ก่อนซื้อควรเปรียบเทียบปริมาณสารอาหารของแต่ละยี่ห้อ อะโรวาน่าอาจจะปฎิเสธการกินอาหารชนิดนี้ ท่านอาจจะต้องใช้ความพยายามในการฝึกอะโรวาน่าของท่านให้ยอมรับอาหารชนิดนี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เทคนิคการเลี้ยงปลามังกร

การเลี้ยงกุ้งเครฟิช